เครียดแล้วอยากหวาน: วิธีรับมือ “การกินตามอารมณ์” ฉบับชาวออฟฟิศ

การเรียนรู้ที่จะรับมือกับความอยากของหวานที่มาพร้อมกับความเครียด คือทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เส้นทางสุขภาพของเราราบรื่นและยั่งยืน การเข้าใจร่างกายและมีทางเลือกที่ดีกว่าในใจ จะช่วยให้เราผ่านวันทำงานที่หนักหน่วงไปได้โดยไม่หลุดจากเป้าหมาย

เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า "คอร์ติซอล" (Cortisol) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากอาหารที่มีพลังงานสูง โดยเฉพาะอาหารหวานๆ หรือมีไขมันเยอะๆ ที่เราเรียกว่า "Comfort Food"

นอกจากนี้ การกินน้ำตาลยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสาร "เซโรโทนิน" (Serotonin) ในสมองชั่วคราว ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สมองของเราจึงเรียนรู้ที่จะเรียกร้องของหวานทุกครั้งที่รู้สึกเครียดนั่นเอง

ครั้งต่อไปที่ความอยากของหวานพุ่งขึ้นมาในหัว อยากให้ลองใช้เทคนิค "หยุดคิดสักนิด" ก่อนจะลุกไปหยิบขนม ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้

การหยุดถามตัวเองสักครู่ จะช่วยดึงสติและทำให้เราแยกแยะระหว่าง "ความหิวทางกาย" กับ "ความอยากทางอารมณ์" ได้ดีขึ้น

หากพบว่าเราแค่ต้องการอะไรมาช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ลองเลือกของว่างเหล่านี้แทนเค้กหรือชานมไข่มุกที่ใจเรามักร้องเรียก เช่น

และรู้ไหมว่าวิธีลดความเครียดที่ดีที่สุดและไม่มีแคลอรีเลยก็คือ การลุกขึ้นไปเดินสั้นๆ สัก 5 นาที การขยับร่างกายจะช่วยลดฮอร์โมนความเครียดและทำให้สมองปลอดโปร่งได้อย่างดี

ครั้งต่อไปที่เรารู้สึกเครียดแล้วอยากหวาน ลองนำทางเลือกที่ดีกว่าไปใช้ แล้วอย่าลืม บันทึกสิ่งที่เลือกกิน (หรือเลือกทำ) ลงใน Wello นะคะ จะช่วยให้เราเห็นว่าคุณสามารถเอาชนะการกินตามอารมณ์ได้ และนั่นคือชัยชนะที่สำคัญบนเส้นทางสุขภาพของเรา