ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เครียดแล้วอยากหวาน: วิธีรับมือ “การกินตามอารมณ์” ฉบับชาวออฟฟิศ

อัปเดตเมื่อเดือนที่แล้ว

การเรียนรู้ที่จะรับมือกับความอยากของหวานที่มาพร้อมกับความเครียด คือทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เส้นทางสุขภาพของเราราบรื่นและยั่งยืน การเข้าใจร่างกายและมีทางเลือกที่ดีกว่าในใจ จะช่วยให้เราผ่านวันทำงานที่หนักหน่วงไปได้โดยไม่หลุดจากเป้าหมาย

ทำไมความเครียดทำให้เราอยากน้ำตาล?

เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า "คอร์ติซอล" (Cortisol) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากอาหารที่มีพลังงานสูง โดยเฉพาะอาหารหวานๆ หรือมีไขมันเยอะๆ ที่เราเรียกว่า "Comfort Food"

นอกจากนี้ การกินน้ำตาลยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสาร "เซโรโทนิน" (Serotonin) ในสมองชั่วคราว ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สมองของเราจึงเรียนรู้ที่จะเรียกร้องของหวานทุกครั้งที่รู้สึกเครียดนั่นเอง

เทคนิค "หยุดคิดสักนิด": หิวจริงหรือแค่อยาก?

ครั้งต่อไปที่ความอยากของหวานพุ่งขึ้นมาในหัว อยากให้ลองใช้เทคนิค "หยุดคิดสักนิด" ก่อนจะลุกไปหยิบขนม ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้

  • "ตอนนี้เรารู้สึกอะไรอยู่?" (เครียด, เบื่อ, เหนื่อย, หรือหิวจริงๆ?)

  • "มื้อล่าสุดเรากินไปเมื่อไหร่?" (ถ้าเพิ่งกินไปไม่ถึง 1-2 ชั่วโมง อาจจะไม่ใช่ความหิวจริง)

  • "ถ้ากินชิ้นนี้เข้าไปแล้ว จะช่วยแก้ปัญหาความเครียดได้จริงไหม?"

การหยุดถามตัวเองสักครู่ จะช่วยดึงสติและทำให้เราแยกแยะระหว่าง "ความหิวทางกาย" กับ "ความอยากทางอารมณ์" ได้ดีขึ้น

5 ตัวเลือกบูสต์พลังงานที่ดีกว่าเค้กและชานม

หากพบว่าเราแค่ต้องการอะไรมาช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ลองเลือกของว่างเหล่านี้แทนเค้กหรือชานมไข่มุกที่ใจเรามักร้องเรียก เช่น

  1. ดาร์กช็อกโกแลต (70% ขึ้นไป): 1-2 ชิ้นเล็กๆ ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุขได้เหมือนกัน แต่มีน้ำตาลน้อยกว่าและมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย นับเป็น ไขมันประมาณ 0.5-1 ส่วน

  2. ถั่วอัลมอนด์หรือวอลนัท 1 กำมือเล็กๆ: ให้ไขมันดีและโปรตีน ช่วยให้อิ่มและมีพลังงานที่คงที่กว่า นับเป็น ไขมัน 2-3 ส่วน

  3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ: โปรตีนสูง ช่วยให้อิ่มนาน อาจจะเพิ่มผลไม้ตระกูลเบอร์รีเล็กน้อยเพื่อความสดชื่น นับเป็น โปรตีน 1 ส่วน และคาร์บ 1 ส่วน

  4. ผลไม้ 1 กำปั้น: ให้ความหวานจากธรรมชาติและมีโพแทสเซียมช่วยลดความเครียดนับเป็น คาร์บ 1 ส่วน

  5. ชาคาโมมายล์ หรือ ชาเขียวร้อนๆ (ไม่เติมน้ำตาล): ความอุ่นของชาจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบลงได้

และรู้ไหมว่าวิธีลดความเครียดที่ดีที่สุดและไม่มีแคลอรีเลยก็คือ การลุกขึ้นไปเดินสั้นๆ สัก 5 นาที การขยับร่างกายจะช่วยลดฮอร์โมนความเครียดและทำให้สมองปลอดโปร่งได้อย่างดี

ครั้งต่อไปที่เรารู้สึกเครียดแล้วอยากหวาน ลองนำทางเลือกที่ดีกว่าไปใช้ แล้วอย่าลืม บันทึกสิ่งที่เลือกกิน (หรือเลือกทำ) ลงใน Wello นะคะ จะช่วยให้เราเห็นว่าคุณสามารถเอาชนะการกินตามอารมณ์ได้ และนั่นคือชัยชนะที่สำคัญบนเส้นทางสุขภาพของเรา

นี่ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการใช่ไหม