การเดินทาง ไม่ว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนหรือไปทำงาน ก็มักจะมาพร้อมกับความยุ่งยากในการควบคุมอาหาร หลักง่ายๆที่สำคัญของการคุมอาหารระหว่างเดินทางคือ "การวางแผน" และ "การเตรียมตัว" การมีตัวเลือกที่ดีติดตัวไว้และรู้เทคนิคในการเลือกซื้อเลือกสั่ง จะช่วยให้เราผ่านทริปนั้นๆ ไปได้อย่างสบายใจโดยไม่หลุดจากเป้าหมายสุขภาพของเรา
เตรียมเสบียง: ของว่างสุขภาพดีที่ควรมีติดกระเป๋า
การมี "เสบียงฉุกเฉิน" ที่ดีต่อสุขภาพติดกระเป๋าไว้ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราไม่เผลอใจไปกับขนมขบเคี้ยวตามร้านสะดวกซื้อเมื่อหิวจัด
ถั่วต่างๆ (ไม่ใส่เกลือ): เช่น อัลมอนด์, วอลนัท ประมาณ 1 กำมือเล็กๆ เป็นของว่างที่ให้ไขมันดีและโปรตีน ช่วยให้อิ่มนาน นับเป็น ไขมัน 2-3 ส่วน
โปรตีนบาร์ หรือ นมโปรตีนสูง: เป็นตัวเลือกที่สะดวกมาก ให้โปรตีนสูงและช่วยควบคุมความหิวได้ดี อย่าลืมพลิกอ่านฉลากเพื่อเลือกยี่ห้อที่มีน้ำตาลน้อยที่สุด
ผลไม้สดที่พกพาง่าย: เช่น กล้วยหอม, แอปเปิ้ล, หรือส้ม จะเตรียมไปเองหรือแวะซื้อตามร้านสะดวงซื้อระหว่างทางก็ได้เช่นเดียวกัน
เลือกซื้ออะไรดีเมื่อต้องเดินทาง?
ร้านสะดวกซื้อเปรียบเสมือนโอเอซิสของนักเดินทาง แต่ก็มีทั้งตัวเลือกที่ดีและกับดักซ่อนอยู่ไม่น้อย แนะนำลองมองหาสิ่งเหล่านี้ดู เช่น
ไข่ต้ม หรือ ไข่ตุ๋น: เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่หาได้ง่ายที่สุด
กล้วยหอม: ให้พลังงานและมีโพแทสเซียมช่วยลดการเป็นตะคริวสำหรับสายลุย
นมจืด หรือ นมโปรตีนสูง: เลือกสูตรน้ำตาลน้อยที่สุด
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ: เลือกรสธรรมชาติเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำตาลแฝง
ทูน่ากระป๋องในน้ำแร่: สามารถซื้อติดไว้กินคู่กับข้าวสวยได้
เทคนิคสั่งอาหารนอกบ้านอย่างมือโปร
เมื่อต้องกินอาหารตามร้านทั่วไป ลองใช้เทคนิค "สั่งแบบพิเศษ" เหล่านี้ เช่น
ขอแยกน้ำจิ้ม/น้ำราด: ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มข้าวมันไก่, น้ำยำ, หรือน้ำสลัด การขอแยกจะช่วยให้เราควบคุมปริมาณน้ำตาลและโซเดียมได้ดี
เน้นเมนู ต้ม/นึ่ง/ย่าง: เช่น ปลาเผา, ไก่ย่าง, ต้มยำน้ำใส, หรือเกาเหลา จะดีกว่าเมนูผัดที่ใช้น้ำมันเยอะหรือของทอด
สั่งผักลวกหรือผักสดเพิ่ม: เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มใยอาหารและความอิ่มในมื้อนั้นๆ
เปลี่ยนเป็นข้าวกล้อง: หากร้านนั้นมีตัวเลือก ลองขอเปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง
อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ
การเดินทางมักทำให้เราเพลิดเพลินจนลืมดื่มน้ำ การขาดน้ำไม่เพียงแต่จะทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย แต่ยังทำให้สมองสับสนระหว่างความหิวและความกระหายได้ง่ายอีกด้วย
พกขวดน้ำส่วนตัว: เตรียมขวดน้ำติดตัวไว้และเติมให้เต็มเสมอเมื่อมีโอกาส
ตั้งเป้าหมาย: พยายามดื่มให้ได้อย่างน้อย 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน
เลี่ยงเครื่องดื่มหวาน: เลือกดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักเพื่อความสดชื่น
ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับการเดินทางครั้งต่อไป แล้วอย่าลืม บันทึกทุกสิ่งที่เรากินลงในแอป ไม่ว่าจะด้วยการถ่ายภาพหรือกรอกข้อมูลเอง การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราสามารถเห็นภาพรวมและสามารถรักษาสมดุลพลังงานได้แม้จะอยู่นอกบ้าน และที่สำคัญคือทำให้เรารู้ว่า แม้ต้องเดินทางไปทำงานไกลๆหรือการเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุขก็สามารถดูแลสุขภาพให้ดีไปพร้อมๆกันได้
