ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อย่ากลัวไขมัน: คู่มือเลือกไขมันดีสำหรับผู้เริ่มต้นลดน้ำหนัก

อัปเดตเมื่อเดือนที่แล้ว

การเข้าใจความแตกต่างระหว่างไขมันแต่ละชนิด เป็นทักษะสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างสมดุล ได้สารอาหารที่ดีอย่างครบถ้วน และสามารถบริหารจัดการ "ส่วน" ไขมันในแอปของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ทำไมร่างกายยังต้องการไขมัน?

เรามาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ไขมันไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป แต่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างยิ่ง เพราะทำหน้าที่สำคัญหลายอย่าง เช่น

  • เป็นคลังพลังงานสำรอง ของร่างกาย

  • ช่วยในการดูดซึมวิตามิน บางชนิดที่สำคัญ (วิตามินเอ, ดี, อี, เค)

  • เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์และฮอร์โมน ในร่างกาย

ดังนั้น การตัดไขมันออกไปทั้งหมดจึงไม่ใช่ทางออกที่ดีต่อเส้นทางสายสุขภาพในระยะยาวของเราอย่างแน่นอน

เลือก “ไขมันดี” (Unsaturated Fats) จำเป็นต่อร่างกาย

"ไขมันดี" เปรียบเสมือน "น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง" ที่ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้อย่างราบรื่น ไขมันกลุ่มนี้เป็นไขมันที่จำเป็นและดีต่อสุขภาพ

  • พบได้ใน: น้ำมันมะกอก, น้ำมันรำข้าว, อะโวคาโด, ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เช่น อัลมอนด์และวอลนัท, และปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทู

“ไขมันที่ควรเลี่ยง” (Saturated & Trans Fats) มีอะไรบ้าง

"ไขมันที่ควรเลี่ยง" เปรียบเสมือน "คราบไขมันในท่อ" ที่หากมีมากเกินไปอาจเข้าไปเกาะตามหลอดเลือดและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เราจึงควรจำกัดปริมาณไขมันกลุ่มนี้ ได้แก่

  • ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) พบได้ใน: ไขมันจากสัตว์ เช่น มันหมู, หนังสัตว์, เนย และน้ำมันปาล์ม, กะทิ

  • ไขมันทรานส์ (Trans Fat) พบได้ใน: มาการีน, เนยขาว, และขนมอบหรือเบเกอรี่ที่ใช้เนยขาวเป็นส่วนประกอบ เช่น พาย, คุกกี้

ซึ่งในประเทศไทยมีกฎห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายอาหารที่มีไขมันทรานส์ ทำให้เราเบาใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศส่วนใหญ่จะปลอดจากไขมันทรานส์ชนิดนี้แล้ว

วิธีเพิ่มไขมันดีในมื้ออาหาร

การเลือกไขมันดีไม่ใช่เรื่องยากเลย ลองใช้เทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ดู เช่น

  • เลือกใช้แทน: ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าวในการปรุงอาหารแทนน้ำมันหมูหรือน้ำมันปาล์ม

  • เพิ่มในอาหาร: ใส่อะโวคาโดหั่นเต๋า (ประมาณ ⅛ ผล หรือ 2 ช้อนโต๊ะ) ลงในสลัด หรือเพิ่มถั่วลิสง อัลมอนด์ หรือ เม็ดมะม่วงไม่คลุกเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ในยำหรือส้มตำ จะนับเป็น ไขมัน 1 ส่วน ในแอป

  • เป็นของว่าง: กินถั่วอัลมอนด์ (ประมาณ 6 เมล็ด) หรือถั่วลิสง (ประมาณ 10 เมล็ด) เป็นของว่าง จะนับเป็น ไขมัน 1 ส่วน เช่นกัน หรือ นมที่ทำจากถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ จะนับเป็นไขมัน 0.5-1 ส่วน และอาจมีส่วนของคาร์บเพิ่มมาด้วยจากการเติมน้ำตาลในบางสูตร ดังนั้นการพลิกดูฉลากจึงมีความถูกต้องและแม่นยำที่สุด

หัวใจสำคัญไม่ใช่การ "งด" ไขมัน แต่คือการ "เลือก" และ "แทนที่" ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ลองค่อยๆ ปรับจากการใช้ไขมันที่ควรเลี่ยง มาเป็นไขมันดีในปริมาณที่พอเหมาะ การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะดีต่อสุขภาพหัวใจ แต่ยังช่วยให้การบริหารจัดการ "เป้าหมายแคลอรี" และ "ส่วน" ไขมันในแอปของเราเป็นเรื่องที่ง่ายและยั่งยืนยิ่งขึ้น

นี่ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการใช่ไหม